CoroField สวนผึ้ง (✿◠‿◠)..ฟาร์มเมลอนแห่งใหม่ที่สวนผึ้ง ราชบุรี..เป็นที่เที่ยวเชิงเกษตรแนวใหม่ที่เรียกว่า LifeStyle Farming..เน้นรายละเอียดและใส่ใจในการปลูกต้นไม้..อย่าง เปิดเพลงให้ผักฟัง ^_^
พร้อมมีกิจกรรมให้เราได้ลงมือปลูกผักและเก็บเกี่ยวพืชผลด้วยตนเอง ฝึกจำลองตัวเองเป็นชาวสวนท่ามกลางวิวสวย รวมทั้งกิจกรรมอื่นอีก 3 กิจกรรม ณ กุมภาฯ2560
..ภาพฟาร์มสีขาวดูโปร่งสบาย กับมาสคอตประจำฟาร์ม ที่ชื่อ “โคโรโระคุง”..เห็นในเน็ตก็จำได้ติดตาเลยค่ะ..
รีวิว CoroField (โคโรฟิลด์) สวนผึ้ง(✿◠‿◠)
ที่ CoroField สวนผึ้ง..เราสามารถไปเดินเที่ยวชมฟาร์มส่วน open-air ได้ฟรีค่ะ…ใครอยากไปเยี่ยมชมฟาร์มสไตล์ญี่ปุ่น..ที่ดูสวยงาม ขาวๆ โปร่งๆ โล่งๆ..พร้อมถ่ายรูปกับ “โคโรโระคุง”..มาสคอตประจำฟาร์ม ที่นอนรอต้อนรับกลางสนามหญ้า ก็สามารถเดินชมกันได้ฟรีๆเลยค่ะ
ส่วนถ้าใครอยากทำกิจกรรมที่ทางฟาร์มจัดให้บริการ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่ะ..ที่สำคัญ!! กิจกรรมอย่างกิจกรรมปลูกผักนั้น..จัดตามรอบเวลา เพราะฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องวางแผนเวลาให้ดีๆนะคะ .. ตอนหาข้อมูลในเน็ตไม่รู้ว่ามีเป็นรอบเวลาค่ะ เราไปถึง11โมงกว่าๆต้องรอรอบต่อไปตอนบ่าย2 ..รอนานมากค่ะ..
เลยต้องรีบถ่ายข้อมูลรอบเวลากิจกรรมของที่ CoroField มาแชร์เพิ่มเป็นข้อมูลไว้แบ่งปันกันค่ะ
โดยทาง CoroField มีจัดกิจกรรม 4 แบบ คือ
- Coro Grow & Harvest: กิจกรรมปลูกผัก & เก็บผลไม้ค่ะ..ตอนที่เราไปได้เก็บมะเขือเทศพันธุ์ฮอลแลนด์ตค่ะ
- Coro House: กิจกรรมนี้คือได้เข้าเดินดูต้นเมล่อนที่ปลูกอย่างใส่ใจในโรงแรือนค่ะ (บ้านเราไม่ได้เข้าไปชมค่ะ เนื่องจากรอปลูกผักนาน เด็กง่วงนอนแล้วค่ะ)
- Coro G.I.Y: กิจกรรม DIY โดยเลือกซื้อต้นไม้เล็กๆในกระถาง แล้วเราสามารถเขียนตกแต่งกระถางได้ตามชอบใจ พร้อมทั้งมีหินกรวดหลากสีให้เลือกตกแต่งหน้าดิน แต่ไฮไลท์เด็ด คือ เมื่อเราตกแต่งเสร็จ เราต้องตั้งชื่อต้นไม้ พร้อมทั้งกล่าวคำสัญญาว่าจะเลี้ยงดูต้นไม้นี้อย่างนี้เฉกเช่นเดียวกับคนในครอบครัว
- กิจกรรมจักรยาน ทั้งBicycle Rally และ Bicycle Tour: กิจกรรมปั่นจักรยานนั่นเองค่ะ
เนื่องจากเด็กๆสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมปลูกผักและเก็บเกี่ยวผลมะเขือเทศกันได้ส่วนกิจกรรมตกแต่ง DIY กระถางต้นไม้ ก็เพลินในห้องแอร์เย็นๆวิวสวยๆกันได้ค่ะ CoroField สวนผึ้ง อีกหนึ่งทางเลือกใน5+ที่เที่ยวเด็กยามพาลูกเที่ยวสวนผึ้งกันได้นะคะ
รีวิว – พาลูกปลูกผักและเก็บเกี่ยวมะเขือเทศ (Coro Grow & Harvest) @โคโรฟิลด์ สวนผึ้ง
กิจกรรมปลูกผักและเก็บเกี่ยวผล (Coro Grow & Harvest) ของที่โคโรฟิลด์ จะต้องรอตามรอบเวลาค่ะ และต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ตอนที่เราไปเสียค่าใช้จ่าย 220บาทต่อคนค่ะ
หลังจากถึงรอบเวลา เจ้าหน้าที่ก็จะให้พาเราเข้าไปโซนปลูกผัก พร้อมแจกผ้ากันเปื้อนและตะกร้าอุปกรณ์
จากนั้น จะพาไปยังจุดที่จะลงมือปลูกผัก ก็จะให้เด็กๆลงมือขุดหลุมโดยบอกให้เด็กๆขุดใกล้ๆกับจุดที่มีรูบนท่อสำหรับรดน้ำ เพื่อต้นไม้จะได้รับน้ำกันค่ะ
เมื่อปลูกผักเสร็จ เด็กๆก็จะได้เขียนชื่อต้นไม้ที่ปลูกไว้ด้วยค่ะ
หลังจากปลูกผักเสร็จ..เจ้าหน้าที่ก็จะให้เด็กๆนำตะกร้าอุปกรณ์ไปคืน พร้อมแจกชะลอมเล็กๆอันนึงสำหรับใส่ผลมะเขือเทศพันธุ์ฮอลแลนด์ลูกเล็กๆ พร้อมทั้งสอนวิธีเก็บให้เด็กๆ จากนั้น เวลาความสนุกก็เริ่มขึ้นค่ะ
เด็กเดินเลือกเก็บอย่างเพลิดเพลินค่ะ .. เด็กที่บ้าน..พยายามเก็บให้ครบทุกแถวที่มีต้นมะเขือเทศขึ้นเลยทีเดียวค่ะ…
กิจกรรมปลูกผักและเก็บเกี่ยวผล @CoroField (Coro Grow&Harvest)..ใช้เวลาไม่นานค่ะ ปลูกผักแป๊บเดียวก็เสร็จ..บ้านเราใช้เวลาเดินชิวๆเก็บผลมะเขือเทศ รวมแล้วใช้เวลาประมาณ 30 นาทีค่ะ
รีวิว – กิจกรรมCoro G.I.Y ตกแต่งกระถางต้นไม้ DIY พร้อมนำต้นไม้กลับไปดูแล @ CoroField สวนผึ้ง
เนื่องจากเราต้องรอรอบกิจกรรมปลูกผักเกือบ 3 ชั่วโมง..บ้านเราเลยพาเด็กไปนั่งทำกิจกรรม Coro G.I.Y (Grow It Yourself) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สามารถเข้าทำได้ตลอดวันค่ะ
Coro G.I.Y (Grow It Yourself) เป็นกิจกรรมที่เราเลือกซื้อต้นไม้เพื่อนำไปปลูกดูแลต่อที่บ้านค่ะ โดยเราสามารถตกแต่งต้นไม้และกระถางด้วยหินสีและปากกาหลากสีสันที่ทางฟาร์มเตรียมไว้ให้ค่ะ
ราคาของต้นไม้ที่นี่มีให้เลือกซื้อหลากหลายราคาค่ะ..ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 150บาทขึ้นไปค่ะมีตุ๊กตาเซรามิคสำหรับตกแต่งต้นไม้ขายเพิ่มเติมค่ะ
เมื่อเลือกต้นไม้เสร็จ..ความสนุกของเด็กก็เริ่มต้นขึ้นค่ะ.. ตั้งแต่โรยหินสี..สแตมป์ตัวโคโรโระคุงอย่างเมามันส์..ใช้ปากกาวาดรูปตกแต่งกระถาง..เพลินมากค่ะ
กิมมิคเก๋ๆของกิจกรรม Coro G.I.Y. นี้ คือ เมื่อตกแต่งต้นไม้เสร็จ เด็กๆต้องตั้งชื่อต้นไม้ด้วย พร้อมทั้งเขียนชื่อต้นไม้ และให้เด็กๆอ่านคำมั่นสัญญาในใบรับอุปถัมภ์ต้นไม้ว่าจะดูแลต้นไม้นี้เฉกเช่นคนในครอบครัวกันค่ะ
เมื่อกล่าวคำสัญญาเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะแพ็คต้นไม้ใส่ถุงพร้อมทั้งใบรับอุปถัมภ์ให้เด็กๆพาต้นไม้กลับไปดูแลต่อที่บ้านค่ะ
โซน Coro G.I.Y นี้ วิวสวยค่ะ..อาคารกระจกโปร่งโล่ง..มองวิวสนามหญ้าเขียวๆสบายตามาก..จากห้องแอร์เย็นๆ..พ่อแม่นั่งชิวกันไประหว่างลูกตกแต่งกระถางต้นไม้กันได้เลยค่ะ..บ้านเราชิวๆอยู่ที่นี่กันเกือบชั่วโมงเลยค่ะ
ร้านอาหาร Coro Field สวนผึ้ง – Review
บรรยากาศของร้านอาหารก็ตกแต่งแนวโปร่งๆโล่งๆรายล้อมด้วยกระจกค่ะ..ร้านสวยงามน่านั่งนะคะ..มีบริการทั้งกาแฟ..น้ำปั่นและของหวานทำจากเมล่อน..ผลผลิตขึ้นชื่อของที่โคโรฟิลด์ค่ะ
บ้านเราฝากท้องมื้อกลางวันที่โคโรฟิลด์กันค่ะ..อาหารจานหลักมีให้เลือกไม่มากนักค่ะ บ้านเราลงเอยด้วยข้าวหมูชาชูหนึ่งจานราคา 185บาทค่ะ ซึ่งตอนถามเจ้าหน้าที่ว่าเผ็ดไหม เด็กจะทานได้หรือเปล่า เจ้าหน้าที่่บอกว่าไม่เผ็ดค่ะ แถมยังบอกว่าเดี๋ยวจะแยกกระเทียมและน้ำราดมาให้ไหมคะ ..ใจดีที่สุด ^_^
นอกจากร้านอาหารก็จะมีโซนขายเมล่อน มะเขือเทศ และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลผลิตภายในฟาร์มสำหรับเดินช็อปปิ้งเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านกันได้ค่ะ
CoroField สวนผึ้ง (✿◠‿◠)..พาลูกมาทำกิจกรรมปลูกผักหรือเก็บเกี่ยวมะเขือเทศใช้เวลาไม่นานค่ะ..ทำเลที่ตั้งก็หาง่ายค่ะเป็นทางผ่านอยู่แล้ว ดังนั้น สามารถแวะพาลูกมาเที่ยวประเดิม หรือมาก่อนกลับกันได้สบายๆค่ะ
ด้วยรักและพาลูกเที่ยว
♥..บัดดี้สตาร์พาลูกเที่ยว (BuddyStarFamilyTravel)..♥
ปล. ทริปสวนผึ้งครั้งนี้ เราเลือกพักกันที่ ภูผาผึ้ง รีสอร์ท เนื่องจากมีสระว่ายน้ำ และทำเลอยู่ใกล้ที่เที่ยวอย่างบ้านหอมเทียน และซีนเนอรี่ รีสอร์ทค่ะ
⇒ ส่วนบ้านไหนอยากได้ไอเดียโรงแรมที่พักสวนผึ้งที่เราพาเด็กไปพักมา ลองดูรีวิวโรงแรมที่เราตอบคำถาม “พาลูกและครอบครัวเที่ยวสวนผึ้ง พักโรงแรมที่พักไหนดีที่เด็กจะชอบ? กันดูนะคะ
1 Pingback